บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2552

9ข้อคิดข้อแนะนำข้อห้ามสำหรับเลือกใช้เครื่องสำอางแพทย์


9ข้อคิดข้อแนะนำข้อห้ามสำหรับเลือกใช้เครื่องสำอาง
แพทย์ผิวหนังในประเทศสหรัฐอเมริกาเคยทำวิจัยพบว่าสาวมะกัน 1 คน จะใช้เครื่องสำอางถึง 13 ตัวต่อวัน สถิติของสาวไทยจะแตกต่างไปมากไหมนี่

9 ข้อคิด... การเลือกใช้เครื่องสำอาง
1. เมกอัพที่ผสมยากันแดดอาจทำให้เกิดสิวได้ ที่สำคัญค่าการกันแดดในเมกอัพพวกนี้ต่ำ ดังนั้นจึงควรใช้ยากันแดดล้วนๆดีกว่า
2. โทนเนอร์ (toners) ทำให้ผิวสวยแห้งได้ ที่เห็นเห็นโฆษณาโดยใช้สำลีชุบน้ำยาเช็ดหน้า แล้วเช็ดคราบออกมาดำเป็นปื้นนั้น เป็นส่วนบนสุดของผิวหนังต่างหากไม่ใช่สิ่งสกปรก ถ้าเช็ดหน้าด้วยน้ำยาเช็ดหน้ามากเกินไป ผิวหนังจะยิ่งแห้งผากเกิดการระคายเคืองได้ง่าย
3. ครีมทาก่อนนอน (night creams) ที่หนา ๆเหมาะ กับผิวหน้าที่แห้งผากจนเป็นขุยเท่านั้น หากมีผิวที่ปกติหรือมันอยู่แล้วการทาครีมก่อนนอนจะทำให้ต่อมไขมันอุดตันเกิดสิวได้ แต่ถ้ามีผิวแห้งทาครีมให้ความชุ่มชื้นชนิดบางก็เพียงพอแล้ว
4. หากหน้ามันจนเยิ้มจะใช้โลชั่นเช็ดหน้าลดความมันหรือใช้แป้งประหน้าบ้างก็จะลดความมันบนใบหน้าได้
5. หากมีสิวที่หน้าผาก บริเวณที่ผมเสียดสีกับผิวหนัง ต้นเหตุมักเป็นมูส เจล หรือสเปรย์ที่ฉีดผม ถ้าเลิกใช้ไม่ได้ก่อนใช้เครื่องสำอางแต่งผมเหล่านี้ ควรปิดหน้าผากโดยใช้กระดาษทิชชูเสียก่อนแล้วพยายาม
ใช้ให้น้อยลง
6. เครื่องสำอางที่ปราศจากกลิ่น (unscented products) นั้นบางครั้งมีการเติมน้ำหอม (fragrances) ลงไปเพื่อดับกลิ่นสารเคมีบางตัว ดังนั้นจึงยังอาจแพ้เครื่องสำอางที่ปราศจากกลิ่นได้ กรณีนี้ลองหันมาใช้เครื่องสำอางที่ไม่มีการเติมน้ำหอม (fragrance-free) จะดีกว่า
7. หากแพ้ยาทาเล็บ อาจทำให้เกิดผื่นรอบดวงตาได้ ทั้งนี้เพราะอาจเผลอใช้เล็บเกาบริเวณนั้นนั่นเอง
8. ครีมล้างหน้า ไม่ค่อยจำเป็นมากนัก ยกเว้น กรณีนักแสดงหรือนางแบบที่ต้องใช้เมกอัพหนาๆ จึงเหมาะที่จะใช้ครีมล้างหน้า
9. ยาสีฟัน ที่ขจัดคราบฟันจากการสูบบุหรี่ อาจทำให้เกิดสิวอักเสบรอบๆ ปากได้


9 ข้อแนะนำ...ยามใช้เครื่องสำอาง
1. ปิดฝาจุกเครื่องสำอางให้แน่นเมื่อใช้แล้ว
2. รักษาความสะอาดกระปุก ขวด และหลอดเครื่องสำอาง อย่าให้ฝุ่นเกาะเขรอะ เก็บเครื่องสำอางไว้ใน ที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่เย็นหรือไม่ร้อนเกินไป
3. ทำความสะอาดแปรงและฟองน้ำที่ใช้กับเครื่องสำอางด้วยสบู่อ่อนและน้ำบ่อยๆ
4. รักษาความสะอาดของดินสอเขียนตา และเหลาบ้างเป็นระยะๆ
5. ใช้สำลีก้อนหรือพัฟแบบใช้แล้วทิ้ง เพื่อทาแป้งหรือบลัช
6. ล้างเมกอัพออกจากใบหน้าทุกครั้งก่อนเข้านอน
7. หมั่นตรวจตราอายุการใช้งานของเครื่องสำอาง โดยเฉพาะมาสคารา ถ้าอายุเกินกำหนดก็ควรทิ้งเสียดีกว่า
8. มาสคาราที่มีอายุนานเกิน 3-4 เดือนควรทิ้งไป หรือถ้ามีกลิ่นหรือสีเปลี่ยนควรทิ้งไปทั้งนี้เพราะมาสคารามีโอกาสเกิดแบคทีเรียปนได้ง่ายกว่าเครื่องสำอางอื่น
9. ถ้ามีการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือที่ดวงตา เครื่องสำอางที่ใช้อยู่อาจมีแบคทีเรียปะปนได้ จึงควรทิ้งเครื่องสำอางที่ใช้ในช่วงนั้น และหยุดใช้เครื่องสำอางสักพักจนกว่าอาการติดเชื้อจะหายดี


9 ข้อห้าม...สำหรับการใช้เครื่องสำอาง
1. ห้ามใช้เครื่องสำอางของคนอื่น และอย่าให้คนอื่นยืมเครื่องสำอาง เพราะอาจมีการถ่ายทอดโรคติดเชื้อต่อกันได้
2. ห้ามใช้เครื่องสำอางตัวอย่างที่ตั้งไว้ตามเคาน์เตอร์ห้างสรรพสินค้า พบว่าถ้าใช้ลิปสติกตัวอย่างที่มีผู้เป็นโรคเริมเคยใช้ก่อนหน้า อาจติดเชื้อโรคเริมที่ริมฝีปากได้ เครื่องสำอางชนิดอื่นๆ ก็ช่วยส่งเสริมให้มีการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อทางผิวหนังและนัยน์ตาได้
3. ห้ามใช้เครื่องสำอางหากยังไม่ได้ล้างหน้า ใช้สบู่อ่อนล้างหน้าให้สะอาดเสียก่อนแล้วจึงค่อยทาเครื่องสำอาง
4. ห้ามทาเมกอัพทันทีที่ตื่นนอน ควรรอสักนิดอย่างน้อยให้หนังตาที่บวมหลังเพิ่งตื่นนอนยุบลงก่อนทาเครื่องสำอาง
5. ห้ามทาตาระหว่างอยู่ในรถ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุรถหยุดกะทันหันหรือรถชนดินสออาจทิ่มตาจนบอดได้
6. ห้ามทามาสคาราด้วยไฟเบอร์หากใส่คอนแทกเลนส์
7. ห้ามเติมอะไรลงไปในเครื่องสำอาง การเติมน้ำลงไปในเครื่องสำอางอาจจะทำให้เชื้อแบคทีเรียเติบโตง่ายขึ้น
8. ระวังการใช้เครื่องสำอางที่ผสมวิตามินอี เพราะไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรต่อผิวหนัง แถมยังทำให้ผิวหนังเกิดผื่นแพ้ขึ้นอีกด้วย
9. ไม่ควรใช้เครื่องสำอางโดยเชื่อตามคำโฆษณาเท่านั้น ธุรกิจเครื่องสำอางเป็นธุรกิจที่ทุ่มเทงบโฆษณามหาศาล บางครั้งจึงทำให้เกิดแรงจูงใจและความเชื่อที่ผิดพลาดได้
หลายคนเสียเงินซื้อเครื่องสำอางเป็นจำนวนมาก จนมีผลที่สำคัญต่อปัจจัย 4 อันจำเป็น มิหนำซ้ำการใช้เครื่องสำอางมากเกินไปยังอาจทำให้เกิดผดผื่นแพ้เครื่องสำอางขึ้นได้

กรณีที่สงสัย หรือต้องการข้อมูลที่ถูกต้องตาม หลักวิทยาศาสตร์การแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังจะเหมาะสมกว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

รายการบล็อกของฉัน